เทศน์เช้า

เทศน์เช้า

๖ ก.ย. ๒๕๕๘

 

เทศน์เช้า วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๘
พระอาจารย์สงบ มนสฺสนฺโต

ณ วัดป่าสันติพุทธาราม (วัดป่าเขาแดงใหญ่) ต.หนองกวาง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี

 

อ้าว ตั้งใจฟังธรรมะเนาะ ตั้งใจฟังธรรม สัจธรรมเพื่อหัวใจของเรา เห็นไหม ดูสิเราเกิดมาเป็นมนุษย์ การหาปัจจัยเครื่องอาศัยยังต้องปากกัดตีนถีบแสวงหาเพื่อความมั่นคงของชีวิต ความมั่นคงของชีวิตนี้ ชีวิตนี้ได้มาเพราะบุญ เพราะกรรม เพราะการกระทำ กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เวลาเกิดเราเกิดในครรภ์ เราหายใจผ่านสายสะดือนะ เกิดในครรภ์ เกิดในไข่ เกิดในน้ำครำ เกิดในโอปปาติกะ กำเนิด ๔

การเกิดเป็นมนุษย์ มนุษย์เกิดมาแล้วมีศักยภาพของความเป็นมนุษย์ มนุษย์เกิดมาเป็นทารก ทารกเลี้ยงตัวเองไม่ได้ พ่อแม่เลี้ยงดูมา โตขึ้นมามนุษย์มีปัญญามาก มนุษย์จะครองโลกได้ นี้พูดถึงความเป็นมนุษย์ เห็นไหม การหาปัจจัยเครื่องอาศัย เราเกิดมา เกิดมาเป็นชาวพุทธ เกิดมาพบพุทธศาสนา พระพุทธศาสนาสอนให้มีการเสียสละ สอนให้มีการให้อภัยต่อกัน การให้อภัยต่อกันมันเป็นสมบัติของผู้ดี ผู้ดีเราต้องมีสติ มีปัญญา เราถึงสามารถรู้ได้สิ่งใดผิด สิ่งใดถูก ถ้าสิ่งใดผิด สิ่งใดถูกเราให้อภัยเขา

การให้อภัยเขา แสดงว่าจิตใจเราต้องมีวุฒิภาวะ มีปัญญามากกว่าเขา เราถึงสามารถให้อภัยเขาได้ คนที่ปัญญาที่ด้อย ปัญญาที่ด้อยเขาให้อภัยใครไม่ได้ เขายังคิดว่าคนอื่นทำร้ายเขา คนอื่นรังแกเขา เขาเอาแต่ความเจ็บช้ำน้ำใจไว้ในใจของเขา เพราะ เพราะเขาไม่มีสัจธรรม เขาไม่มีคุณธรรมในหัวใจของเขา ประเพณีวัฒนธรรมในใจ เห็นไหม คนดีๆ คนดีดีจากหัวใจ เรามีสติ มีปัญญาสามารถยับยั้งอารมณ์ความรู้สึกของเราได้ เราสามารถยับยั้งได้ สามารถมีสติสัมปชัญญะยับยั้งสิ่งที่มันจะสร้างฟืนสร้างไฟให้ใจเราได้ แล้วเรายังอภัยให้เขาได้อีกด้วย

ถ้าคนเกิดมีปัญญา นี่คืออำนาจวาสนาของคน อำนาจวาสนาของคน เราเกิดมาเป็นมนุษย์ เราเกิดมาพบพุทธศาสนา พุทธศาสนาสอน สอนให้ทำคุณงามความดีๆ ความดีของใคร เวลาความดีของเราต้องมีศีล ศีลคือศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ มีศีลแล้วต้องมีธรรม มีศีลแล้วเราไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ตัดชีวิต เราเห็นเขาแล้วเราก็ทอดอาลัยตายอยาก เราไม่ห่วงใยใครเลยหรือ เราห่วงใย ดูสิเวลาลูกหลานของเราเรายังห่วงใย เราต้องดูแลลูกหลานของเรา อย่างน้อยขึ้นมาก็ให้เป็นคนมีความสุข เป็นคนดีคนหนึ่ง

เป็นคนดีคนหนึ่ง เห็นไหม เขาได้สร้างอำนาจวาสนาของเขา นี่เราเลี้ยงดูเขา เราต้องพลัดพรากจากเขาไปแน่นอนวันหนึ่ง ในเมื่อเราเกิดมาเรามีอายุมากกว่าเขา เราก็ต้องตายก่อนเขาเป็นเรื่องธรรมดา แล้วลูกหลานของเราล่ะ ลูกหลานของเรา เราดูแลเขาไป ให้เขายืนในสังคม ให้เขามั่นคงของเขานะ นี่เราต้องการให้ลูกหลานของเรามีปัญญา ถ้าปัญญาอย่างนี้เกิดขึ้นมานะเราอบรมบ่มเพาะขนาดไหน

กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เด็กบางคนเห็นผู้ใหญ่ทำสิ่งใดมันพยายามทำตามให้เหมือนอย่างนั้น ทำคุณงามความดีอย่างนั้น เด็กบางคนไม่ยอมรับอย่างนั้น เด็กบางคนๆ คำว่าเด็กบางคน เห็นไหม นี่กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน จิตใจของเขา แต่จิตใจของเขาเราบ่มเพาะได้ นี่บ่มเพาะด้วยอะไร บ่มเพาะด้วยการฟังธรรม ฟังธรรม ไปวัดไปวาให้ใกล้ชิดผู้ที่ทรงศีล ทรงธรรม เพราะทรงศีล ทรงธรรม

นี่เราทรงศีล ศีลคืออะไร ศีลมันคือศูนย์ไง เวลาเราคิดกันว่าศีล ขอศีลๆ แล้วไม่ประพฤติปฏิบัติ ศีลมันมาจากไหน ศีลมันมาจากเจตนา ศีลมันมาจากข้อห้าม ข้อห้าม ถ้ามีการกระทำขึ้นมามันก็เป็นศีลใช่ไหม จิตเราถ้ามันจะทำสิ่งใดที่มันข้ามพ้นมันข้ามเลยไป เราก็ยับยั้งมันไว้ ยับยั้งมันได้อย่างไร ถ้ายับยั้งมันก็ต้องมีสติ มีปัญญาใช่ไหม

ถ้ามีสติปัญญา นี่ปัจจัยเครื่องอาศัย เราหาปัจจัยเครื่องอาศัยมันต้องคนที่มีอำนาจวาสนา คนทำสิ่งใดแล้วประสบความสำเร็จเพราะเขาก็ทำของเขามา เขาทำของเขามา เขาทำอะไร หยิบจับอะไรมันประสบความสำเร็จไปหมดเลย เราทำสิ่งใดทำไมขาดตกบกพร่องไปหมดเลย ขาดตกบกพร่องไปหมดเลย ก็การกระทำไง กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เกิดมาด้วยกัน เกิดมาสถานะเดียวกัน อยู่ด้วยกัน แต่ประสบความสำเร็จแตกต่างกัน

นี้เรามองกันด้วยที่วัตถุนะ วัตถุที่เราวัดกันทางโลก เศรษฐีโลกๆ เขาวัดกันด้วยปริมาณทรัพย์สิน เศรษฐีธรรม หลวงปู่มั่นอยู่ป่าอยู่เขา หลวงตาท่านพูดประจำนะ หลวงปู่มั่น ถ้าพูดถึงทางโลกเป็นเศษคน เศษเดน คือสังคมไม่เห็นมีค่าไง มันไม่มีวัตถุ ไม่มีทรัพย์สินที่มันจะมาอวดกับโลกว่าฉันเป็นคนดี ฉันมีทรัพย์สิน ฉันมีความเสมอหน้าเสมอตาใคร มีบริขาร ๘ ผ้าก็ผ้าเก่าๆ ผ้าอาบนี่ยังขาดแล้วขาดเล่า หลวงตาท่านเห็นท่านทนไม่ไหวไง มีชื่อเสียงคับฟ้าใช้ผ้าแบบนี้ นี่ไปตัดใหม่มาให้ ท่านไม่ยอมใช้

เวลาหลวงตาท่านไปอุปัฏฐาก ถ้าจะให้เราเป็นลิงคือจับจด คนจับจด คนใช้ฟุ่มเฟือยไม่ใช่คนที่มีคุณธรรม ถ้าจะให้ใช้ต้องไปเอาผืนเก่ากลับมา หลวงตาต้องไปเอาผ้าอาบขาดๆ ของเดิมของท่านมาคืนท่าน ท่านถึงใช้ของท่าน เวลาขาด เวลาชำรุดท่านซ่อมท่านแซมของท่าน ท่านทำเป็นตัวอย่างไง นี่ไงถ้าจำนวนทรัพย์สิน ทรัพย์สินบริขาร ๘ ยังบริขารเก่าๆ เก่าๆ แต่มันเก่าเพราะมันเป็นวัตถุ แต่สิ่งที่ดีงามคือจิตใจของท่าน

หลวงปู่เจี๊ยะท่านเป็นคนพูดเอง หลวงปู่เจี๊ยะท่านเป็นคนอุปัฏฐากผ้าของหลวงปู่มั่น หลวงปู่เจี๊ยะนี่ แล้วหลวงตาท่านพูดว่าหลวงปู่มั่นท่านละเอียดลออขนาดไหน หลวงปู่เจี๊ยะถ้าไม่มีสติปัญญาขนาดนั้นจะรักษาอุปัฏฐากผ้าของท่านไม่ได้ การพับผ้า การดูแลผ้า ดูเสื้อผ้าเราสิ เสื้อผ้าในตู้เราใครมาทำอะไรเราไม่พอใจทั้งนั้นแหละ เราจะทำความพอใจของเรา แต่นี้ครูบาอาจารย์เราท่านมีศีลไง ท่านมีศีล ท่านมีคุณธรรมในหัวใจไง

ถ้ามีศีล มีคุณธรรมในหัวใจ ของมันจะเก่า ของจะชราคร่ำคร่า ของจะไม่มีคุณค่าขนาดไหน แต่มันมีคุณค่าสำหรับมนุษย์คนนั้นไง มันมีคุณค่าเวลาห่มร่างกายหลวงปู่มั่นไง มันมีคุณค่าต่อเมื่อคนที่ใช้นั้นมีธรรมไง สิ่งที่มีสัจธรรมในหัวใจ ฟังธรรมๆ ให้หัวใจมีคุณค่าขึ้นมา ถ้าหัวใจมีคุณค่าขึ้นมา ของมันมีค่ามันก็มีค่าขึ้นมาทันทีเลย แต่ของเราแสวงหากันมาจะหาทรัพย์สิน หาของที่มีค่า แต่หัวใจเราทุกข์เรายาก หัวใจมันต่ำต้อย หัวใจมันโดนเหยียบย่ำอยู่ หัวใจของเราหัวใจมันทุกข์มันยาก ฟังธรรมๆ เราตอกย้ำตรงนี้

สิ่งที่หามาหามาเลี้ยงชีพ ปัจจัยเครื่องอาศัยว่ามันไม่ลำบากมันก็ลำบากทั้งนั้นแหละ ทุกข์คืออริยสัจ ทุกข์คือสัจจะความจริง แต่การเกิดเป็นมนุษย์ ทุกข์เป็นอริยสัจ ทุกข์เป็นสัจจะความจริง เศรษฐีสมัยพุทธกาลเขาจะมีโรงทานไว้หน้าบ้าน คนที่เขามีทรัพย์สมบัติของเขา เขาเสียสละของเขา เขาเจือจานของเขา เพื่ออำนาจวาสนาบารมีของเขา อยู่นรกอเวจีมันด้วยเวรด้วยกรรม มันไม่มีสิ่งใดเลี้ยงชีพมัน ต้องทนทุกข์ ทนหิว ทนกระหาย นรกอเวจี ขุมนรกแต่ละขุมลงไป เกิดเป็นสัตว์ อบายภูมิ ๔ เกิดเป็นสัตว์

เวลาเกิดเป็นสัตว์เจ้าของเขาเลี้ยงดูแล ดูสิสัตว์ที่เจ้าของเขารักใคร่ของเขา เขาเลี้ยงดูแลจนสุขสมบูรณ์ สัตว์จรจัด สัตว์ที่ไม่มีจะกินมันต้องหากินของมันอย่างไร นี่พูดถึงว่าเวลาเกิดในวัฏฏะ เกิดในผลของวัฏฏะ เห็นไหม แต่เวลาเกิดเป็นมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์การทำมาหากินมันทุกข์มันยาก แต่มันทุกข์มันยากขนาดไหนนะเขามีโรงทาน คนที่เขามีน้ำใจเขาเสียสละได้ใช่ไหม เขาช่วยเหลือเจือจานกันได้ใช่ไหม

เวลามันทุกข์ๆ มันก็ทุกข์อยู่นั่นน่ะทุกข์เพราะกรรมไง ทุกข์เพราะการกระทำไง ทุกข์เพราะเราทำดีทำชั่วมาไง ถ้ามันทำดีของมันนะคาบช้อนเงินช้อนทองมา นี่ถ้าทำคุณงามความดีมา แต่คนที่มาทำ แล้วทุกข์ทนเข็ญใจ เขาทำไปแล้วเขาประสบความสำเร็จในชีวิตของเขา นั่นมันเป็นเพราะอะไรล่ะ คนเราทำมามีสูงๆ ต่ำๆ จิตดวงหนึ่งไม่เคยทำดีตลอดและทำชั่วตลอด มันผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปไง

กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน เห็นไหม กรรมจำแนกสัตว์ให้เกิดต่างๆ กัน ถ้าเราศึกษาธรรมะแล้วเราเข้าใจสัจธรรมอันนี้ เวลาสิ่งใดปรากฏขึ้นมากับหัวใจของเรา เราประสบการณ์สิ่งใดในชีวิตมันจะยิ้มๆ เลย ถ้ามันประสบความสำเร็จนี่บุญ ถ้ามันไม่ประสบความสำเร็จนี่บาป เวลาเพราะบาปอกุศลมันทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ บาปอกุศลทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าบุญมาเรายิ้มแย้มแจ่มใส แล้วบุญ บาปใครทำมา ใครทำมา

กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา เราทำมาทั้งนั้น ถ้าเราทำคุณงามความดี ความดีมันจะตอบสนอง แต่เราบอกว่าเราทำคุณงามความดีมาตลอดทำไมไม่ตอบสนองสักทีล่ะ ทำดี ทำชั่ว ถึงเวลากรรมมันให้ผล วิบากกรรมที่มันให้ผลๆ มา ถ้าเราทำสิ่งใดมาเราต้องภูมิใจของเรา แล้วเราฝืนทนของเรา เพราะ เพราะเราได้ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราได้ศึกษาธรรม เราได้ประพฤติปฏิบัติธรรม เรามีจุดยืนของเรา ถ้าเรามีจุดยืนของเรา เราจะไม่ไหลลงไปทางที่ชั่ว เราจะไม่ไหลลงไปที่ต่ำ

คนที่มีปัญญา เห็นไหม คนที่มีปัญญาเป็นผู้ให้ คนที่มีปัญญาเป็นผู้ให้อภัย คนที่มีปัญญาเป็นผู้ที่ให้เขาได้ความสะดวกจากเรา ผู้มีปัญญาๆ ทั้งนั้นเลย คนมีปัญญาถึงทำได้ คนไม่มีปัญญาเอาที่ไหนมาทำ เห็นเขาทำก็ทำตามเขาไป เถรส่องบาตร เห็นเขาส่องบาตรก็ส่อง เขาส่องบาตรเพื่อดูความชำรุด เราส่องบาตรเพื่อเป็นพิธี ชาวพุทธ ถ้าชาวพุทธความจริงนะ ความจริงมันจะเกิดที่นี่ไง

ฉะนั้น เวลาทำบุญใส่บาตรของเรา เราทำด้วยเจตนาของเรา ทำด้วยยิ้มแย้มแจ่มใสของเรา เราทำเพื่อเรา ทำเพื่อเรา ทำเพื่อหัวใจดวงนี้ ใส่บาตรไปของเราอยู่ที่ไหนหลุดมือไปอยู่ที่พระหมดเลย แต่พระเอาไปพระภิกขาจาร เลี้ยงชีพด้วยปลีแข้ง การเลี้ยงชีพ เลี้ยงชีพเพื่อศึกษาประพฤติปฏิบัติ เลี้ยงชีพมาเพื่อปฏิบัติธรรม ถ้าได้คุณธรรมในหัวใจขึ้นมา เนื้อนาบุญของเรา เพราะเราได้หว่านพืชลงไปที่นั่น ถ้าเราได้หว่านพืชลงไปที่นั่น ของเราทั้งนั้น เวลาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ บุญกุศลนี้มันจะส่งเสริมขึ้นมาๆ ส่งเสริมให้เราทำคุณงามความดี ส่งเสริมคนมีสติ มีปัญญา

นี่เวลาทาน ศีล ภาวนา สุดท้ายออกภาวนา เวลาออกไปภาวนา คนภาวนา ทีนี้เลี้ยงใจจริงๆ แล้วล่ะ ที่ว่าหลวงปู่มั่นท่านอยู่ในป่าในเขาของท่าน สิ่งใดที่ท่านใช้ท่านสอยมันมีคุณค่าหมดเลย ของจากร่างกายของท่านทุกคนปรารถนาเอาไปเคารพบูชาทั้งนั้นเลย มันเกิดมาจากไหน เกิดมาจากในหัวใจของท่าน ที่ท่านทำของท่านแล้วประสบความสำเร็จ เราอยากได้อย่างนั้น นี่ปัจจัตตังๆ สันทิฏฐิโก เราอยากได้หัวใจของเรา อยากได้ความสุข ความจริงของเรา

ศึกษาธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามา ศึกษามาๆ เป็นทฤษฎี ศึกษามาเป็นความรู้ กิเลสมันก็หลอกใช้ ว่างๆ ว่างๆ ว่างๆ อากาศมันก็ว่าง ในบ้านในเรือนเราปิดห้องไว้มันก็ว่าง แล้วมันได้อะไรล่ะ ว่างๆ ว่างๆ ว่างๆ ทำไมอ่อนด้อยขนาดนั้น แต่ถ้าเราทำคุณงามความดีของเรา เก็บหอมรอมริบ คนเราจะมั่งมีศรีสุขขึ้นมาต้องมีการประหยัดมัธยัสถ์ คนเราหาเงินหาทองมาแล้วไม่เคยรู้จักเก็บรักษา เท่าไรมันก็ไม่พอ แต่คนเรารู้จักประหยัดมัธยัสถ์ ประหยัดมัธยัสถ์มันก็เป็นสมบัติของคนดี

นี่กตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ รู้จักการใช้ประโยชน์ สุขภาพร่างกายก็แข็งแรง สุขภาพร่างกายก็ดี จิตใจทำแล้วมันไม่มาท้อแท้ภายหลังไง แต่ถ้ากิเลสมันครอบงำ ทำสิ่งใดไปแล้วตอนทำก็คิดดีทั้งนั้นแหละ พอล่วงไปแล้วโอ๋ยคิดไง ปฏิคาหก เวลาให้ให้ด้วยความชื่นใจ ขณะให้ให้แล้ว ผู้รับรับเป็นประโยชน์หมด ดูสิรับมาแล้วประโยชน์หมด ข้าวเม็ดหนึ่งก็ไม่เสียหายเลย จะมากมีขนาดไหน ข้าวทุกเม็ดเป็นประโยชน์หมด ถ้าคนรู้จักใช้ รู้จักทำให้เป็นประโยชน์

นี่ปัญญาคนเท่านั้นที่จะทำให้เราผ่านวิกฤติชีวิตของเราไปได้ วิกฤติชีวิตของเรา เห็นไหม วิกฤติชีวิตในการปัจจัยเครื่องอาศัย แล้วประพฤติปฏิบัติขึ้นไป วิกฤติชีวิตของเราต้องต่อสู้ ต่อสู้กับกิเลสตัณหาความทะยานอยาก ต่อสู้กับสิ่งที่มัน นี่เวลามันง่วงเหงาหาวนอนก็ทุกข์แล้ว เวลานั่งไปสัปหงกโงกง่วง สัปหงกโงกง่วงเพราะอะไรล่ะ นี่เราก็ต้องหาเหตุหาผลขึ้นมา

ร่างกายของคนเราก็เหมือนกัน บางคนเขานั่งสมาธิของเขาได้ เขานั่งสมาธิของเขาได้เพราะเขาฝึกหัดของเขามา เขามีชั่วโมงบิน ไอ้เราก็เพิ่งบิน เวลาเพิ่งบินขึ้นมาก็จะบินโฉบกับเหยี่ยวเชียว เราหัดบิน ชั่วโมงบินมันไม่มีมันก็ทำไม่เป็นใช่ไหม ถ้าชั่วโมงบินมันมีนะมันขึ้นไปเลย ความร้อนของอากาศ ไหนมันจะรอความร้อนของอากาศมาก่อน มันจะขึ้นไปตามอากาศ อากาศประคองไปไม่ต้องบินเลย ผู้ที่เขามีชั่วโมงบินเขาทำของเขาได้ ไอ้เราไม่มีชั่วโมงบินเราก็ฝึกหัดของเรา ถ้าฝึกหัดของเรานะทำประโยชน์ของเรา

นี่จะเลี้ยงใจแล้ว สิ่งที่ว่าเป็นธรรมะๆ ธรรมะมันเกิดที่นี่ ศีล สมาธิ ปัญญา จะเห็นความปกติของใจเลย ใจมันปกติ อ๋อ นี่ศีลสมบูรณ์ ศีลมันอยู่ที่นี่ เวลาศีลสมบูรณ์ขึ้นมาแล้วมันเป็นความปกติ สมบูรณ์แล้วมันเข้าใจตัวมันเอง แต่มันไม่มีกำลังพอเพราะมันยังไม่มีความสงบ กำหนดพุทโธ ใช้ปัญญาอบรมสมาธิพยายามทำของเรา นี่เราทำบุญกุศล บุญกุศลเราทำด้วยการเสียสละ การเสียสละนั้นสมบูรณ์ด้วยการเสียสละทาน เวลาประพฤติปฏิบัติขึ้นมา พุทโธขนาดไหนแล้วมันก็ไม่ได้ดั่งใจ ปฏิบัติแล้วมันก็ไม่ได้ดั่งความพอใจของตัว

ความพอใจของตัว เห็นไหม ย้อนกลับมาแล้ว ย้อนกลับมาจริตนิสัย ย้อนกลับมาการสร้างมา ดูนักกีฬาสิ ทุกคนอยากเป็นนักกีฬาเหรียญทอง ทุกคนอยากเป็นนักกีฬาอาชีพ เพราะนักกีฬาอาชีพเดี๋ยวนี้ อู้ฮูผลตอบแทนมหาศาลเลย แล้วเป็นได้กี่คน ใครเป็นได้บ้าง มันเป็นไม่ได้ ทักษะเขาต้องมีอยู่แล้ว เขาต้องมีการฝึกหัด ฝึกฝนของเขา

จิตก็เหมือนกัน เวลาทำของเรานี่เราสร้างอะไรมา เราทำอะไรมา มันมีความถนัดอะไร มันรู้จักอะไร เวลาได้ทุกคนอยากได้ ทุกคนอยากเป็นนักกีฬาอาชีพ เซ็นสัญญาทีเป็นพันๆ ล้าน แล้วมันเป็นได้กี่คน แล้วคนในโลกนี้กี่พันล้าน ทำไมคนไม่เป็นอย่างนั้นหมดล่ะ ฝึกทุกรายให้เป็นอย่างนั้นหมดเลย ลูกหลานเขาฝึกมาตั้งแต่เด็กๆ เขาฝึกให้เป็นนักกีฬาอาชีพ เล่นมาตั้งแต่อายุ ๓ ขวบ ๔ ขวบ ขึ้นมาพัฒนามาตั้งแต่นั่น เขาทำของเขามา แล้วมันต้องมีทักษะของมัน บางคนกระทำแล้วประสบความสำเร็จ บางคนทำแล้วทำไม่ได้

นี่ก็เหมือนกัน ย้อนกลับมาพุทโธ พุทโธนี่เราทำได้หรือทำไม่ได้ ดูสิทางโลกเขาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพร่างกายของเขา ไอ้นี่ของเราเราเป็นชาวพุทธจิตใจมันมีค่า หัวใจนี้มีค่ามาก เราก็ฝึกหัดปฏิบัติของเรา เราพุทโธ หายใจเข้านึกพุท หายใจออกนึกโธ ถ้ามันไม่ได้ก็ฝึกหัดให้หัวใจเข้มแข็ง ถ้าหัวใจเราเข้มแข็งแล้ว หัวใจเข้มแข็ง คนที่มีสติปัญญา เห็นไหม มีแต่กิเลสมันยุแหย่ ยุแหย่เวลาปฏิบัติทำอะไรก็ไม่ได้ คนอื่นเขาทำได้หมดเลย มีแต่น้อยเนื้อต่ำใจ เอาแต่ฟืนแต่ไฟเผาตัวเอง

เวลาพุทโธ พุทโธ นี่พุทโธไม่ได้ ไม่ได้ก็ให้มันฉลาด ใครจะหลอกอย่างไรก็ไม่ไป อ้าว ถ้ามันไม่ได้มาทางนี้ ทางนี้ง่ายๆ นั่งหลับตาขึ้นมาเป็นพระอรหันต์เลย ไปทันทีเลย แล้วพุทโธมันทำไม พุทโธมันเสียเวลาหรือ พุทโธแล้วต้องมีปัญญาสิ เราปฏิบัติบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ศึกษาอ่านพระไตรปิฎก ธรรมและวินัยขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราเอาพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานบูชาท่าน นั่งสมาธิบูชาองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นี่จะไปเฝ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตัวเป็นๆ ในหัวใจเรา ไม่ต้องไปสังเวชนียสถานทั้ง ๔ ไม่ต้องนั่งเครื่องบินไป ค้นหากลางอก แล้วมันได้เดี๋ยวนี้

พอได้เดี๋ยวนี้ พอขึ้นไปความจริงพอจิตมันสงบ โอ้โฮ ตะลึง อ๋อ ใจคนมันเป็นอย่างนี้เนาะ ใจคนนะคือใจเรา ใจเราที่เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ เราไม่รู้จักตัวเราเลย แต่มันสงบขึ้นมาด้วยสติ ด้วยสัมปชัญญะ มันรู้ตัวมันเองด้วยความมหัศจรรย์ ของๆ เราอยู่กลางหัวใจของเรา ไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็น เหมือนของๆ เราแล้วเราไม่เคยได้สัมผัส ของๆ เราแล้วเราไม่เคยได้สัมผัส เราไม่เคยเห็นเลย มันให้ชีวิตเรามานี่แหละ ปฏิสนธิจิต เกิดในไข่ เกิดในครรภ์ เกิดในน้ำครำ เกิดในโอปปาติกะ มันพาเราเกิดนี่ แต่ไม่มีใครรู้จักมัน พุทโธ พุทโธเข้าไป ปัญญาอบรมสมาธิจนเข้าไปเห็นมัน รู้จักมัน โอ้โฮ

นี่ไงรสของธรรมชนะซึ่งรสทั้งปวง รสของธรรม แล้วเห็นทีเดียวมันอยากได้ อยากดี แล้วภาวนาอีก ๕ ปีก็ไม่ได้ พอเคยเห็นแล้วไม่ได้เลย อยากได้อย่างนั้น แต่ที่มันได้มา ได้มาเพราะอะไร ชั่วโมงบิน บินจนเป็น บินจนทำได้ เราทำได้ ธรรมทั้งหลายมาแต่เหตุ มีสติ มีปัญญาแล้วทำได้ มีสติ มีปัญญา มีความเพียรชอบ ความเพียรชอบการกระทำที่ถูกต้องดีงาม ความเพียรชอบ ความเพียรมีความเพียรแต่มันไม่ชอบธรรม มันเอียง มันกระเท่เร่ มันไม่ลงของมัน มันก็เป็นไปไม่ได้ ถ้ามันเป็นไปไม่ได้อันนี้คือสัจจะ

ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค สัจจะความจริงมันเป็นแบบนี้ ถ้ามันมีมรรค มีเหตุมีผลของมัน ศาสนาไหนไม่มีมรรค ศาสนานั้นไม่มีผล คนทำมาหากินเวลาเขาทำประสบความสำเร็จของเขา เขาทำธุรกิจของเขา เขาได้ผลตอบแทนของเขา เขาถึงได้เป็นเศรษฐีของเขา ไอ้เราประพฤติปฏิบัติขึ้นมา ถ้ามันได้ผลตามจริงมันก็ได้ผลตอบแทนอย่างนั้น นี่มันเป็นผล เป็นวิบาก แต่ถ้ามันประพฤติปฏิบัติ คนทำมาหากิน ทำแล้วทุกข์ทนเข็ญใจอยู่อย่างนั้นก็ยังฝืนทนทำด้วยความขยันหมั่นเพียร แต่ทำแล้วไม่ประสบความสำเร็จ

นี่เขาทำแล้วเขาก็มีประสบการณ์ของเขา เราได้ทำมาแล้ว ใครจะทำอะไร โอ๋ย กูทำแล้ว กูทำแล้ว แต่กูทำแล้วกูทำไม่ได้ แต่นี้คนทำได้เขามี เราก็เหมือนกัน เราประพฤติปฏิบัติของเรา เราทำความจริงของเรานะให้เป็นความจริงของเรา นี่ไง นี่เวลาเกิดมา เกิดมาชีวิตนี้ต้องมีปัจจัยเครื่องอาศัย หัวใจนี้เวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะ มันอาศัยบุญกุศลเป็นที่พึ่งอาศัย บุญกุศลนี้พาให้เกิดในที่ประสบความสำเร็จ เกิดดี ประพฤติปฏิบัติขึ้นไปจนมันบรรลุธรรม จนเห็นธรรม เป็นสัจธรรม หัวใจดวงนี้เป็นธรรม เป็นอกุปปธรรม เป็นสัจธรรม

ธรรมเหนือโลก เหนือโลกเพราะมันไม่เวียนว่ายตายเกิด เหนือโลกเพราะมันอิสระ เหนือโลกเพราะมันไม่มีสิ่งใดจะชักนำมันไป เหนือโลกที่ไม่มีสิ่งใดจะมาคล้อยนำ เหนือโลกที่ไม่มีสิ่งใดจะมาสัมผัสได้ นี่มันมหัศจรรย์อย่างนั้น นี่หัวใจ เห็นไหม เกิดเป็นมนุษย์มีค่ามาก มีค่าตรงมีหัวใจ สิ่งที่จิตของคน ความรู้สึกของคนมีค่าที่สุด แก้ว แหวน เงิน ทองยังเจือจานกันได้นะ แต่การประพฤติปฏิบัติต้องเป็นปัจจัตตัง เป็นสันทิฏฐิโก รู้เอง เห็นเองจากหัวใจดวงนั้น เอวัง